สิทธิมนุษยชน
๑. ความหมายและความสำคัญของสิทธิมนุษยชน
พระราชบัญญัติคณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ
พ.ศ. ๒๕๔๒ ได้ให้ความหมายของสิทธิมนุษยชนว่า หมายถึง ศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์
สิทธิ เสรีภาพ
และความเสมอภาคของบุคคลที่ได้รับการคุ้มครองตามรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย
หรือตามกฎหมายไทย หรือสนธิสัญญาที่ประเทศไทยมีพันธะกรณีที่จะต้องปฏิบัติตาม
๒. แนวคิดและหลักการของสิทธิมนุษยชน
บทบัญญัติของรัฐธรรมนูญในส่วนที่เกี่ยวกับการคุ้มครองสิทธิมนุษยชน
มีความก้าวหน้าและความเป็นสากลมากขึ้น
หนึ่งมาจากการที่ประเทศไทยเป็นประเทศชั้นภาคีแนวหน้าขององค์การสหประชาชาติที่รับรองหลักการคุ้มครองสิทธิมนุษยชนที่สมัชชาใหญ่ขององค์การ-สหประชาชาติได้ประกาศไว้ใน
“ปฏิญญาสากลว่าด้วยสิทธิมนุษยชนแห่งสหประชาชาติ” เพื่อเป็นแนวทางให้ประเทศสมาชิกใช้เป็นแนวทางในการปฏิบัติต่อพลเมืองของตนและชาวต่างชาติที่อาศัยอยู่ในประเทศของตน
๓. ความเป็นมาและสาระสำคัญของปฏิญญาสากลว่าด้วยสิทธิมนุษยชนแห่งสหประชาชาติ
๓.๑ ความเป็นมา
แนวคิดเกี่ยวกับปฏิญญาสากลว่าด้วยสิทธิมนุษยชนแห่งสหประชาชาติเกิดขึ้นหลังจากสงครามโลกครั้งที่
๒ สิ้นสุดลง
เนื่องจากเหตุการณ์ดังกล่าวได้นำมาซึ่งความสูญเสียชีวิตและทรัพย์สินของประเทศคู่สงครามอย่างมหาศาล
ภายหลังจากที่ได้มีการจัดตั้งองค์การสหประชาชาติขึ้น
จึงได้มีการพยายาผลักดันให้เร่งกำหนดแนวทางการคุ้มครองสิทธิมนุษยชนขึ้นมาคุ้มครองมนุษยชาติ
จนกระทั่งวันที่ ๑๐ ธันวาคม ๒๔๘๑
มีมติยอมรับและประกาศใช้ปฏิญญาสากลว่าด้วยสิทธิมนุษยชนแห่งสหประชาชาติอย่างเป็นทางการและตามมาด้วยกติการะหว่างประเทศอีก
๒ ฉบับ คือ กติการะหว่างประเทศว่าด้วยสิทธิพลเมืองและสิทธิทางการเมือง และ
กติการะหว่างประเทศว่าด้วยสิทธิทางสังคม เศรษฐกิจ และวัฒนธรรม
๓.๒ สาระสำคัญ
มีวัตถุประสงค์และหลักการทั่วไปเกี่ยวกับมาตรฐานด้านสิทธิมนุษยชน
แต่ไม่มีพันธะผูกพันในแง่ของกฎหมายระหว่างประเทศ
กล่าวได้ว่าถือเป็นเอกสารทางประวัติศาสตร์ที่ช่วยในการวางรากฐานด้านสิทธิมนุษยชนระหว่างประเทศฉบับแรกของโลก
ปัจจุบันประเทศไทยได้เข้าเป็นภาคีพันธกรณีกับปฏิญญาสากลว่าด้วยสิทธิมนุษยชนจำนวน
๖ ฉบับ ได้แก่
· อนุสัญญาว่าด้วยสิทธิเด็ก
· กติการะหว่างประเทศว่าด้วยสิทธิทางเศรษฐกิจ
สังคม และวัฒนธรรม
· กติการะหว่างประเทศว่าด้วยสิทธิพลเมืองและสิทธิทางการเมือง
· อนุสัญญาระหว่างประเทศว่าด้วยการขจัดการเลือกปฏิบัติทางเชื้อชาติในทุกรูปแบบ
· อนุสัญญาระหว่างประเทศว่าด้วยการขจัดการเลือกปฏิบัติต่อสตรีทุกรูปแบบ
· อนุสัญญาว่าด้วยการต่อต้านทรมานและการทารุณกรรม
ตลอดจนการปฏิบัติหรือการลงโทษที่ลดทอนคุณค่าความเป็นมนุษย์
๔. บทบัญญัติของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย
พุทธศักราช ๒๕๕๐ เกี่ยวกับสิทธิมนุษยชน
รัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย ตั้งแต่ปี ๒๔๙๒ – ๒๕๓๔
ได้นำเนื้อความแห่งปฏิญญาสากลปฏิญญาสากลว่าด้วยสิทธิมนุษยชนแห่งชาติมาบัญญัติรวมไว้
แต่สิทธิมนุษยชนเพิ่งจะถูกนำมาบัญญัติไว้เป็นครั้งแรกในรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย
๒๕๔๐ ในหมวดที่ ๖ รัฐสภา ส่วนที่ ๘ ว่าด้วยคณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ มาตรา
๑๙๙ – ๒๐๐
ลประโยชน์กันอ่านเพิ่มเติม